ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เมื่อไหร่ที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้าจากการทำงาน การออกไปท่องเที่ยวชมธรรชาติ ก็ยังคงเป็นกิจกรรมที่หลายคนนิยมทำกันอยู่เสมอๆ และไม่ว่าวัยไหน แค่ได้เห็นสีเขียวของธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศสงบๆ ต่างก็ถูกใจกันทุกราย ดังนั้นหากใครกำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติในไทยสุดปัง มาแรงแห่งปี 2023 เราได้คัดสรรมาให้แล้ว พร้อมพาคุณปักหมุดเที่ยวได้แบบไม่มีสะดุด
1. เขาช่องลม จ.นครนายก
เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติในไทย น้องใหม่มาแรงของปี 2023 เลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาช่องลม หรือที่บางคนเรียกว่าน้ำตกช่องลมแห่งนี้ ซ่อนตัวอยู่ในที่เที่ยวสไตล์ธรรมชาติสุดฮิตของจังหวัดนครนายกอย่าง “เขื่อนขุนด่านปราการชล” ด้วยความสวยงามของลำธารที่ไหลผ่านหุบเขาสีเขียวขจีจากธรรมชาติ และที่สำคัญมีลมพัดผ่านช่องหุบเขานี้ตลอดทั้งปี จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเขาช่องลม นั่นเอง แน่นอนว่าการมาเที่ยวธรรมชาติ ก็จะต้องมีการเสียเหงื่อเพื่อแลกกับความสวยงามของธรรมชาติกันสักเล็กน้อย เพราะจะต้องเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางของน้ำตกและลำธาร ที่โอบล้อมด้วยสีเขียวจากต้นไม้น้อยใหญ่ และทุ่งหญ้า แต่รับประกันความสวยงามของธรรมชาติที่ได้เห็นนั้นคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อที่เสียไปอย่างแน่นอน
2. อุทยานแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
หากพูดถึงที่เที่ยวธรรมชาติของไทย ก็คงจะพลาดที่เที่ยวธรรมชาติแห่งนี้ไปไม่ได้เลย เพราะเขาใหญ่ถือได้ว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติสุดฮิต ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่ถึง 4 จังหวัด เต็มไปด้วยความอุดสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิด พร้อมที่เที่ยวธรรมชาติครบทุกรูปแบบ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถไปเที่ยวได้แบบสบายๆ และที่สำคัญเลยก็คือเต็มไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ ให้ได้แวะถ่ายรูป ทานของอร่อยกันแบบไม่พัก เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ไปได้กันทั้งครอบครัว
3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติในไทย ที่ใครได้ไปเป็นต้องตกหลุมรักให้กับความสวยงามและสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่กันทุกราย ซึ่งหลายคนให้ชื่อกับที่เที่ยวธรรมชาติแห่งนี้ว่าสวรรค์บนดินกันเลยทีเดียว และถึงแม้จะอยู่ภาคใต้ และลักษณะทางธรรมชาติดูคล้ายกับทะเล แต่ที่เที่ยวแห่งนี้ไม่ใช่ทะเล เป็นทะเลสาบน้ำจืดซึ่งห้อมล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ และผืนป่าสีเขียวที่ได้โอบล้อมเอาไว้ ภายในพื้นที่เขื่อนเชี่ยวหลานนั้น เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมโดนใจสายเที่ยวธรรมชาติมากมาย หรือใครอยากหาที่เที่ยวเงียบสงบ ปล่อยใจฟินๆ ไปกับธรรมชาติ บอกได้เลยว่าปักหมุดที่เขื่อนเชี่ยวหลานไว้ได้เลย
4. หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา
ไปทะเลสาบน้ำจืดแล้ว จะพลาดที่เที่ยวธรรมชาติของไทยอันแสนมีชื่อเสียงอย่างทะเลอันดามันได้ยังไงกัน? ซึ่งหากพูดถึงเกาะสวย น้ำใสราวกับหาดสวรรค์ ก็ต้องยกนิ้วให้กับหมู่เกาะสิมิลันแห่งนี้เลย ผืนทรายเนื้อละเอียดสีขาวราวกับแป้ง ตัดกับน้ำทะเลใสสีเทอร์ควอยซ์ที่ดูสวยราวกับไม่ใช่ของจริง ไม่ว่าใครที่ได้มาเยือนหมู่เกาะสิมิลันแห่งนี้ ต่างต้องตะลึงในความสวยงามเกินจริงที่สร้างสรรค์จากฝีมือของธรรมชาติ นอกจากบนเกาะแล้ว ทะเลรอบๆ หมู่เกาะสิมิลันยังเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของฝูงปลาทะเลนานาชนิด ที่คอยแหวกว่ายทักทายเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมอยู่เสมอ หากใครโชคดี อาจจะมีโอกาสได้เจอกับเหล่าแก๊งค์นีโม่และผองเพื่อนได้อีกด้วย
5. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี
ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวธรรมชาติสุดอีกหนึ่งพิกัดที่พลาดไม่ได้ของไทย ที่เรียกได้ว่าฮิตมาอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีตกยุค ก็คืออุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นกับน้ำตกเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่สุดอลังการมีจำนวนชั้นถึง 7 ชั้นด้วยกัน ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวอันแสนอุดมสมบูรณ์ โดยภายในอุทยานฯ นอกจากจะมีที่เที่ยวไฮไลท์อย่างน้ำตกแล้ว ยังมีถ้ำสวยๆ และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ สามารถแวะมาเล่นน้ำ ชมธรรมชาติ หรือจะนอนกางเต้นท์ดื่มด่ำธรรมชาติกันแบบฉ่ำๆ รับรองว่าธรรมชาติที่นี่จะช่วยชาร์จพลังให้คุณอย่างแแน่นอน
หวังว่าที่เที่ยวแต่ละแห่งที่ได้คัดสรรมาในวันนี้จะถูกใจเหล่านักเที่ยวสายธรรมชาติกัน
แน่นอนว่าการไปเที่ยวธรรมชาติบางครั้ง เราก็อาจจะได้พบกับอุบัติเหตุ หรืออันตรายไม่คาดฝันขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ขั้นตอนการฝึกปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันไว้ติดตัวสักหน่อย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุเล็กน้อย จะได้สามารถปฎิบัติตัวและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์กับตนเองแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครกำลังมองหาแหล่งอบรม เรียนรู้การฝึกปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ได้มาตรฐานสากล ฝึกฝนและสอนโดยผู้ชำนาญและได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำของไทยมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจาก First Aid Training Bangkok >คลิกเลย< (Link)
แบ่งปันบนโซเชียลมีเดีย