Fire Safety Training
อบรมดับเพลิงและการหนีไฟ เพื่อความปลอดภัย
ติดต่อสอบถามราคา
ระดับ
- เริ่มต้น
- ปานกลาง
- ขั้นสูง
อบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมายกำหนด
แบบเรียบง่าย เน้นเรียนให้เข้าใจได้ง่าย สามารถปฏิบัติได้จริง
และจัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่ตรงตาม
ข้อกำหนดการฝึกอบรม ISO ของคุณ
เพื่อบรรลุเป้าหมายการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้บุคลากรในองค์กรหรือหน่วยงานของคุณ สามารถรับมือกับอัคคีภัยได้
อบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมายกำหนด
• กฎหมายได้ระบุให้สถานประกอบกิจการต้องจัดอบรมดับเพลิงให้กับพ นักงานในองค์กรของท่าน ไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนลูกจ้างของแต่ละหน่วยงาน
• อบรมได้ครั้งละ 60 ท่านต่อกลุ่ม *กรณีมีผู้เข้าอบรมมากกว่า 60 ท่าน สามารถแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มย่อยได้
• วิทยากรบรรยายภาคทฤษฎี 1 ท่าน
• วิทยากรภาคปฏิบัติ 1 ท่านต่อผู้เข้าอบรม 20 ท่าน
ใครบ้างควรเข้าร่วมการอบรมดับเพลิง?
ทุกคน! เพราะทุกคนในที่ทำงานมีหน้าที่ป้องกันการเกิดอัคคีภัย วัฒนธรรมความปลอดภัยจากอัคคีภัยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ทัศนคติ และการรับรู้ที่มีร่วมกันเกี่ยวกับการป้องกันและคุ้มครอง หลักสูตรนี้ เปิดสอนแบบตัวต่อตัว เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยอัคคีภัยให้พนักงานของคุณ เพิ่มความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาสำคัญและลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ในที่ทำงาน องค์กร หรือแม้กระทั่งหน่วยงานต่างๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่อาจเกิดเพลิงไหม้อีกด้วย
การเรียนภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
• ระยะเวลาในการอบรมขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณลูกค้า
• เรียนทฤษฎีการเกิดเพลิงไหม้
• การแพร่กระจายของเชื้อเพลิง
• ประเภทของเพลิง (A, B, C, D, K) และวิธีการดับเพลิงให้เหมาะสมกับเพลิงแต่ละประเภท
• ประเภทของถังดับเพลิง และการเลือกใช้อย่างเหมาะสม
• วิธีการใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองส่วนบุคคลในการดับเพลิง
• การจัดระบบป้องกันและระงับเหตุเพลิงไหม้ การประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในสถานประกอบการ
• ฝึกดับเพลิงโดยใช้สายน้ำดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิงของสถานประกอบการ
• ฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟ ตามโครงสร้างอาคารของแต่ละสถานประกอบการ
• การช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน
ประโยชน์ที่จะได้รับ
• เรียนหลักสูตรและวีดีโอที่น่าเชื่อถือและความรู้ใหม่ล่าสุด จากครูผู้สอนมากประสบการณ์ และได้ฝึกปฏิบัติจริงเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น โดยจะมีครูผู้สอนคอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
• ช่วยให้คุณเข้าใจความรับผิดชอบของคุณในเรื่องความปลอดภัยจากอัคคีภัย
• ช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงจากอัคคีภัยในสถานที่ทำงาน
• อธิบายวิธีการระบุเหตุและรายงานอันตราย
• ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการอพยพและอุปกรณ์ดับเพลิงในกรณีฉุกเฉิน
• ได้รับใบรับรองหลังจบหลักสูตร
• เอกสารประกอบการเรียน ฟรี!
ประเภทของเพลิงไหม้มีอะไรบ้าง แต่ละ class คืออะไร
ถังดับเพลิงแบ่งตามการใช้งาน และสาเหตุหลักของการเกิดเพลิงไหม้ที่มีองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ ความร้อน อากาศ และเชื้อเพลิง ซึ่งเชื้อเพลิงเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดประเภทเพลิงแต่ละประเภท โดยสามารถแบ่งประเภทเพลิงออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภท นั่นคือเพลิง class A, class B, class C, class D และ class K เพลิงแต่ละชนิดมีรายละเอียดดังนี้
เพลิงไหม้ประเภท A (Ordinary Combustibles)
มีสาเหตุมาจากเชื้อเพลิงธรรมดาที่ติดไฟง่าย หรือของแข็ง ที่สามารถพบได้ทั่วไปตามอาคาร ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า เช่น ไม้ ผ้า ขยะ พลาสติก กระดาษ เป็นต้น สามารถดับได้ด้วยน้ำเปล่า
เพลิงไหม้ประเภท B (Flammable Liquids)
มีสาเหตุมาจากเชื้อเพลิงที่เป็นของเหลวที่สามารถติดไฟ และก๊าซที่สามารถติดไฟได้ โดยของเหลวที่สามารถติดไฟมักมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าซ ที่สามารถพบได้ตามปั๊มน้ำมัน หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และโรงงานที่ผลิตสีบางชนิด สามารถดับได้ด้วยการตัดออกซิเจนในอากาศ
เพลิงไหม้ประเภท C (Electrical Equipment)
มีสาเหตุมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดความร้อนสูง หากอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าจัดวงจรและเกิดเพลิงไหม้ได้ จำเป็นต้องตัดระบบไฟฟ้าก่อนทำการดับเพลิงทุกครั้ง
เพลิงไหม้ประเภท D (Combustible Metals)
มีสาเหตุมาจากโลหะที่สามารถติดไฟได้ ที่สามารถพบได้ตามห้องปฏิบัติการ ห้องทดลอง และโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานโลหะ เช่น Titanium, Aluminium, Potassium และ Magnesium เป็นต้น ไม่สามารถดับเพลิงได้ด้วยน้ำเปล่า
เพลิงไหม้ประเภท K (Combustible Cooking)
เพลิงไหม้ประเภทนี้มีสาเหตุมาจากน้ำมันที่ใช้ในครัว ไขมันสัตว์ ของเหลวที่ใช้ประกอบอาหาร สามารถพบได้ตามห้องครัว ร้านอาหาร หรือห้องอาหารตามโรงแรม เป็นต้น
ประเภทของถังดับเพลิง
จากข้อมูลของประเภทเพลิง ทำให้เรารู้ว่า การอบรมดับเพลิงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากเราขาดความรู้ ความเข้าใจกับการดับเพลิง อาจส่งผลร้ายและความเสียหาย ต่อทรัพย์สิน รวมไปถึงชีวิตอีกด้วย เพราะว่าการใช้น้ำเพื่อไปดับเพลิงที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อาจทำให้เพลิงไหม้นั้นมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นเราจึงอยากนำเสนอถังดับเพลิงทั้งหมด 7 ชนิดที่นิยมใช้ในการดับเพลิง
ถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
เมื่อฉีดออกมาจะมีลักษณะเป็นไอเย็นจัด คล้ายกับน้ำแข็งแห้ง ช่วยลดความร้อนของเพลิงไหม้ได้ เครื่องดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนใหญ่ตัวถังจะมีสีแดง และบริเวณปากหัวฉีดจะกว้างมากกว่าถังดับเพลิงชนิดอื่นๆ สามารถดับเพลิงไหม้ประเภท B และ C ได้
ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical)
เมื่อฉีดออกมาจะมีลักษณะเป็นฝุ่นผงเคมี ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ส่วนใหญ่ตัวถังจะมีสีแดง ถือเป็นถังดับเพลิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ใช้ดับเพลิงไหม้ประเภทA, B และ C
ถังดับเพลิงชนิดโฟม (Foam Extinguishers)
เมื่อฉีดออกมาแล้วจะมีลักษณะเป็นฟองโฟมปกคลุมเชื้อเพลิงที่ลุกไหม้ ทำให้เพลิงขาดออกซิเจน ตัวถังมักมีสีเงิน และหัวฉีดยาวกว่าหัวฉีดถังดับเพลิงประเภทอื่นๆ ใช้ดับเพลิงไหม้ประเภท A และ B
ถังดับเพลิงชนิดน้ำ (Water Extinguishers)
ถังจะบรรจุน้ำธรรมดาและก๊าซ ตัวถังมักเป็นสีฟ้า หรือ สีเงิน ใช้ดับเพลิงไหม้ประเภท A ได้
ถังดับเพลิงสูตรน้ำ (Low Pressure Water Mist)
ถังดับเพลิงชนิดนี้พิเศษกว่าถังดับเพลิงชนิดน้ำ สามารถดับเพลิงไหม้ได้มากถึง 4 ประเภท ได้แก่ เพลิงไหม้ประเภทA, B, C และ K
ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย (Clean Agent)
โดยตัวถังจะมีลักษณะเป็นสีเขียว เพื่อเป็นการบอกว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผู้ใช้งาน ใช้ดับเพลิงไหม้ประเภทA, B, C
ถังดับเพลิง wet chemical
ใช้ดับเพลิงไหม้ประเภท K
คุณอาจสนใจ
สอบถามหลักสูตร